มีคนราว 1 ใน 10 ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคปวดศรีษะข้างเดียวหรือที่เรียกว่า ไมเกรน มีแนวโน้มว่าผู้หญิงจะเป็นโรคนึ้มากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า และเด็กราวร้อยละ 5 ก็เป็นโรคนี้ด้วย โดยปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้โรคนี้กำเริบคือ ช็อกโกแลต เนขแข็ง ส้ม การขาดสารอาหาร ความเครียด ฮอร์โมนบางชนิด
อาการปวดหัวข้างเดียวส่วนใหญ่แบ่งออกได้ 5 ระยะ
ระยะเตือน เป็นอาการเตือนว่าโรคจะกำเริบ ซึ่งบางครั้งอาจเกิดก่อนปวดหัวถึง 24 ชั่วโมง อาการที่สำคัญของระยะนี้ คือ หาวนอนโดยไม่ได้ง่วง วิงเวียน หิว อยากกินอาหารหวานๆหรืออาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต กระหายน้ำ กล้ามเนื้อหนักอึ้ง และอารมณ์แปรปรวน ขณะที่บางคนรู้สึกเครียด หวั่นไหว ซึมเศร้า
ระยะที่ 2 ระยะภาพเตือน โดยประสาทการมองเห็นจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหมือนมีแสงสว่างจ้าที่ด้านหน้าลูกตา และบางครั้งอาจมีอาการปวดหัวข้างเดียวตามมาติดๆ
ระยะที่ 3 เป็นระยะปวดศรีษะ มักเกิดขึ้นตามมาหลังจากเกิดอาการในระยะที่2 ภายใน 1 ชั่วโมง อาการปวดธรรมดาก็จะเปลี่ยนเป็นอาการปวดตุ๊บๆ จนหัวแทบระเบิด และมักจะมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้ ไวต่อแสง รวมทั้งกลิ่นแปลกๆหรือมีเสียงในหูด้วย
ระยะที่ 4 เป็นระยะผ่อนคลายเป็นระยะที่อาการต่างๆ ที่ผ่านมาค่อยๆทุเลาลง จนหายไปเองภายใน 7-12 ชั่งโมง ผู้ป่วยราวครึ่งหนึ่งจะมีอาการดีขึ้นเมื่อได้นอนหลับในห้องมืดๆ บางคนก็ดีขึ้นหลังจากอาเจียนหรือร้องไห้โฮออกมาดังๆ
ระยะที่ 5 เป็นระยะหมดแรง แม้ว่าอาการปวดจะหายไปแล้ว แต่ผู้ป่วยบางรายก็ยังรู้สึกหมดเรี่ยวแรงจนต้องพักต่ออีก 1-2 วัน กว่าจะหายเป็นปกติ
ส่วนมากผู้ที่มีอาการปวดมักจะซื้อยามารับประทานเอง แต่การทานยาแก้ปวดเป็นเวลานานๆ จะทำให้เกิดอาการดื้อยาได้ และอาจต้องเพิ่มปริมาณยาขึ้นหรือต้องเปลี่ยนยาให้แรงขึ้นเพื่อระงับอาการปวด ผู้ป่วยบางรายมีอาการปวดทุกวันอาจได้รับผลข้างเคียงของยาปฎิชีวะถ้าทานทุกวันหรือทานติดต่อเป็นเวลานานๆ
การป้องกันไม่ให้เกิดโรคไมเกรนเรื้อรัง การทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการ การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงเป็นอีกทางเลือกในการรักษาดูแลร่างกายเพื่อให้ได้สารอาหารครบ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น การนอนหลับพักผ่อนในตอนกลางคืนมีประสิทธิภาพ ก็จะทำไม่มีอาการปวดหัวอีกเลยหรือมีบางแต่อาการน้อยลงเรื่อยๆ
ลองดูรีวิวลูกค้าที่ทานแล้วอาการดีขึ้น
เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา 0841130431 ทิพย์